วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

นายกฯยิ่งลักษณ์ มั่นใจโครงการ SML เกิดประโยชน์ต่อหมู่บ้าน-ชุมชน




(24 พฤษภาคม 2555 ทำเนียบรัฐบาล) - "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เปิดโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน หรือ โครงการเอสเอ็มแอล ระบุรัฐบาลนำโครงการดำเนินการต่อเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของชุมชน ยอมรับรัฐบาลมองภาพรวมเศรษฐกิจทั้งหมดว่าจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้สำเร็จ แต่ก็อยากให้หมู่บ้านและชุมชนร่วมแก้ไขปัญหาในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อเงินจากกองทุนนี้จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริงโดยผ่านคณะกรรมการชุมชน ขอให้หมู่บ้านและชุมชนนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางดำเนินการ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีกดปุ่มโอนเงินให้เข้าบัญชีแก่หมู่บ้าน ชุมชน พร้อมกันทั่วประเทศ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล และมีการสนทนากับผู้แทนประชาชนในพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น จันทบุรี และสงขลา จังหวัดละประมาณ 5 นาที สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ มีนายวีระเดช เจริญดี กำนันดีเด่นตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะร่วมสนทนาสดกับนายกรัฐมนตรี ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดพร้อมกันทั่วประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการ SML เป็นโครงการที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2548 ได้ทำต่อเนื่องมาและได้มีการหยุดชะงักไประยะหนึ่ง ดังนั้น รัฐบาลได้มีการวิเคราะห์แล้วและเห็นว่า เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น จึงได้ให้ความสำคัญ เพื่อให้ชุมชนมีความเข็มแข็ง สามารถสร้างรายได้ให้ตนเองได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจดีขึ้น และเป็นการกระจายอำนาจการปกครองไปสู่ท้องถิ่น


สำหรับการจัดสรรงบประมาณ จะคำนึงถึงศักยภาพของชุมชนตาม สำหรับหมู่บ้านขนาดเล็กให้งบประมาณ 3 แสนบาท หมู่บ้านขนาดกลาง 4 แสนบาท และ หมู่บ้านขนาดใหญ่ 5 แสนบาท โดยมีวัตถุประสงค์ ๔ ประการ กล่าวคือ


1. เพื่อให้หมู่บ้านและชุมชนเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย เป็นการส่งเสริม การพัฒนาอาชีพ เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส รวมทั้งเป็นการพัฒนา หรือแก้ไขปัญหาของหมู่บ้านและชุมชน

2. เพื่อส่งเสริมให้หมู่บ้านและชุมชนมีโอกาสและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการหมู่บ้านและชุมชน ด้วยพลังของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนนั้น ได้ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไขปัญหา เพื่อความรัก ความสามัคคี และเพิ่มศักยภาพของการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งเป็นการปลูกฝังระบอบประชาธิปไตยที่ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ อันเป็นรากฐานสำคัญในการปกครองประเทศ

3. เพื่อให้หมู่บ้านและชุมชนมีโอกาสพัฒนาตามความต้องการของประชาชน เป็นการเสริมการพัฒนาของหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสและสิทธิเสรี ภาวะผู้นำให้แก่ประชาชนในระดับหมู่บ้านและชุมชน และเป็นการเตรียม ความพร้อมของประชาชนในการรองรับการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

4. เพื่อเสริมสร้างและปลูกจิตสำนึกในการบริหารงบประมาณของประชาชน การดำเนินกิจกรรมร่วมกันโดยยึดหลัก การบริหารแบบตรงไปตรงมา โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ มีความรับผิดชอบ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม เป็นหลัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น