วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

"ยิ่งลักษณ์" เปิดใจ1ปีรัฐบาล นำทัพ 31ปลัดกระทรวง วางยุทธศาสตร์ประเทศไทยก้าวทันโลก


ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงแรมเชอราตัน พัทยา จ.ชลบุรีว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ตุลาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงและเทียบเท่า ภายใต้การอบรมหลักสูตร "ผู้บริหารระดับสูงอาเซียนระยะที่ 1 การหาความจำเป็นในการฝึกอบรม เพื่อจัดทำหลักสูตรในการอบรมผู้บริหารระดับสูงอาเซียน" จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงกัน

ก่อนเข้าร่วมการประชุมนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายรูปร่วมกับปลัดกระทรวงต่างๆ พร้อมมอบของที่ระลึกให้กับปลัดใหม่ทั้ง 10 คน อาทิ นายวิบูลย์ สงวนพงษ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม. นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นต้น ขาดเพียง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ติดภารกิจเนื่องในวันตำรวจแห่งชาติ โดยการประชุมครั้งนี้ มีปลัดกระทรวงและหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 31 คนจากทั้งหมด 38 คน

น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนเริ่มประชุมว่า การสัมมนาในครั้งนี้ มีปลัดกระทรวงเข้าร่วมงานทั้งสิ้น 31 คน ขาดปลัดที่ติดภารกิจสำคัญ 7 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการใช้โอกาสที่รัฐบาลทำงานมาครบ 1 ปี มาเปิดใจพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับปลัดกระทรวงทั้งหมดอย่างเต็มที่ เพราะที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีโอกาสร่วมประชุมบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยได้พูดคุยกันแบบเปิดใจ โดยนายกรัฐมนตรีคาดหวังให้ปลัดทุกคนได้พูดในสิ่งที่มีความต้องการจะนำเสนอ จากนั้นก็จะร่วมกันหารือวางยุทธศาสตร์ของประเทศไทย ใน 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ ความสามารถในการแข่งขันทางด้านสังคม การกระจายรายได้เป็นพิเศษ และจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก อย่างไรก็ตามการประชุมในลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงถือเป็นโอกาสพิเศษที่นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้วางยุทธศาสตร์ของประเทศไทยร่วมกับปลัดกระทรวง โดยหลังจากการประชุมครั้งนี้แล้วจะจัดทำเป็นหลักสูตร เพื่อให้ส่วนราชการได้เข้ามาทำงานตามหลักสูตร เพื่อให้ประเทศไทยได้ปรับตัวพัฒนาก้าวทันโลกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น