วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

"ยิ่งลักษณ์" ประชุมปลัดกระทรวง กำหนดกรอบกลยุทธ์การขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการภาครัฐ

นายกรัฐมนตรีประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง กำหนดกรอบกลยุทธ์การขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการภาครัฐร่วมกันในปีงบฯ 56  ระบุขอให้ทำงานเป็นทีมมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนงานในเชิงบูรณาการ  สั่งการทุกกระทรวงทำฐานข้อมูลภารกิจหลัก-รอง ลดความซับซ้อนงานแต่ละกระทรวง ให้ยึดรูปแบบ 3M เน้นบริหารจัดการ-บุคลากร-งบประมาณ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและประสิทธิภาพของงาน


วันนี้ (13 ต.ค.55) เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมเชอราตัน พัทยา จังหวัดชลบุรี นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงวาระพิเศษ เพื่อสร้างวิสัยทัศน์ร่วม และกำหนดกรอบกลยุทธ์การขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการภาครัฐร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง โดยมีนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย

นายนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการ ก.พ. กล่าวชี้แจงวัตถุประสงค์และรูปแบบวิธีการจัดประชุมสัมมนาในภาพรวมโดยสรุปว่า สำนักงาน ก.พ. ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนาคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงเป็นวาระพิเศษนอกสถานที่ในครั้งนี้  ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนการทำงานในรอบปีที่ผ่านมา และหารือเกี่ยวกับการกำหนดแผนยุทธศาสตร์และแนวทางในการทำงานร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556  โดยรูปแบบการประชุมสัมมนาวันนี้ในช่วงเช้า คณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ร่วมอภิปรายให้ความเห็น เรื่องความสำเร็จ ข้อปัญหาอุปสรรค ข้อจำกัด ของการทำงานในรอบปีที่ผ่านมา และแนวทางการดำเนินการต่อไป  สำหรับในช่วงบ่าย จะมีกิจกรรมการระดมความเห็น เรื่อง ยุทธศาสตร์และแนวทางการบริหารจัดการภาครัฐในเชิงบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 โดยเลขาธิการ สศช. จะนำเสนอประเด็นการประชุม เกี่ยวกับ บริบทและความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจสังคมของประเทศ และที่ประชุมจะระดมความเห็นร่วมกันในเรื่องการกำหนดกรอบกลยุทธ์การขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการภาครัฐในเชิงบูรณาการ

ต่อจากนั้น เป็นกิจกรรม เปิดใจ  โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวนำประเด็นการประชุมสัมมนา พร้อมกล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมของการทำงานร่วมกันในรอบปีที่ผ่านมา และความคาดหวังของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต่อการทำงานร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556  ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับและกล่าวแสดงความยินดีต่อปลัดกระทรวงที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ทั้ง 11 คน  ที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในการทำงาน  โดยการประชุมในวันนี้เพื่อเตรียมความพร้อมถึงแผนการทำงานในปีงบประมาณ 2556 ที่ต้องการเห็นการทำงานเป็นทีมซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ  วันนี้จึงขอให้ทุกคนช่วยกันแสดงความคิดเห็นท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเอง  ให้ช่วยกันนำเสนอแผนการทำงานที่รวมถึงแผนต่อไปในอนาคต  พร้อมร่วมกันกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ จัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย ทิศทาง ร่วมผลักดันนโยบาย และวาระสำคัญของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติแบบเชื่อมโยงอย่างบูรณาการ ระหว่างกระทรวง ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง   

จากนั้น หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงทุกคนได้กล่าวเปิดใจพร้อมแสดงความเห็นต่อภาพรวมของการทำงาน และปัญหา อุปสรรค ในการทำงานของรอบปีที่ผ่านมา  ซึ่งภายหลังการรับฟังการแสดงความเห็นของหัวหน้าส่วนราชการฯ แล้ว  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าภาพรวมของปัญหาคือการขาดการบูรณาการทำงานร่วมกัน  พร้อมกล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่นายกรัฐมนตรีเข้ามาทำงานก็ประสบกับปัญหาอุทกภัย  ซึ่งถือเป็นบทเรียนแรกที่สะท้อนให้เห็นปัญหาโครงสร้างของระบบราชการที่ไม่ตอบสนองต่อการแก้ปัญหาในภาวะวิกฤตได้  รวมไปถึงเรื่องของงบประมาณภาครัฐที่ไม่สามารถเอื้อต่อการใช้จ่ายเงินในภาวะฉุกเฉินได้  โดยรูปแบบการทำงานของภาครัฐยังเป็นแบบแท่งซึ่งมีขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน  ในวันนี้จึงต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยต้องทำงานเป็นแนวนอน ทำงานเป็นทีมมากขึ้น  เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนงานในเชิงบูรณาการ 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้แต่ละกระทรวงจัดทำฐานข้อมูลถึงภารกิจหลัก ภารกิจรอง เพื่อแสดงให้เห็นรูปแบบการทำงานและผู้รับผิดชอบ เพื่อลดความซับซ้อนของการทำงานในแต่ละกระทรวง  โดยให้ยึดรูปแบบ 3M  โดยให้เน้น M แรก คือ Management เน้นการจัดการบริหาร M ที่สองคือ Man บุคลากร และ M ที่สามคือ Money งบประมาณ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการและประสิทธิภาพของการทำงาน  พร้อมนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเสนอแนวทางการทำงานแบบ Analysis ที่ให้มีการวิเคราะห์ปัญหาภายในองค์กรและภาคนอกองค์กรว่ามีปัญหาอะไรบ้าง  เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน  ช่วยกันแก้ปัญหาและกำหนดวัตถุประสงค์ร่วมกันว่าจะแก้ปัญหาตรงจุดไหนก่อน  และจัดลำดับความสำคัญของปัญหาอย่างสัมพันธ์กัน ให้มีการประเมินผล โดยไม่ต้องการเห็นการกล่าวโทษกัน  แต่เพื่อให้มีการทบทวน ยอมรับในสิ่งที่ผ่านมา เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้เกิดการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น  ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่าตนเองเป็นคนจริงจังกับงาน  หลายกระทรวงอาจจะโดนตำหนิบ้าง  แต่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของงาน พร้อมกับเพื่อให้มีการปรับรูปแบบการทำงาน  โดยถ้ามีอะไรขอให้เปิดใจคุยกัน  ตนยืนยันพร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคณะหัวหน้าส่วนราชการและไม่ทอดทิ้งกัน  เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือประเทศชาติและประชาชน  

โดยการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงในวันนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงเข้าร่วมการประชุมรวมจำนวน 31 คน ซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่จำนวน 11 คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น