วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555
รัฐบาลไทย จับมือเวียดนาม หนุน ข้าว-ยางพารา สู่ตลาดโลก
27 ตุลาคม 2555 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ประจำวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2555 เป็นการสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของผลการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จ.สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช การประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม โดยมี ธีรัตน์ รัตนเสวี ดำเนินรายการ
นายกฯกล่าวถึง การเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตีรร่วมไทย-เวียดนามว่า เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมระหว่างไทยกับเวียดนามอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 2 การหารือเป็นการประชุมภาพรวมทั้งนายกฯไทยและเวียดนามกล่าวเปิด หลังจากนั้นก็มีประชุม 3 กลุ่ม กลุ่มการเมืองและความมั่นคง กลุ่มเศรษฐกิจ และกลุ่มสังคมและวัฒนธรรม เป็น 3 กลุ่มตามเสาหลักของอาเซียน
ส่วนคณะรัฐมนตรีก็จะคุยกันในแต่ละกลุ่ม แล้วกลับมาปรุะชุมในกลุ่มใหญ่อีกครั้ง ในส่วนของความมั่งคงก็จะพูดถึงความร่วมมือในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหา ยาเสพติด ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะไปร่วมประชุมด้วย นอกจากนั้น ก็จะพูดต่อเรื่องของเรือประมง เราก็จะพูดถึงว่าจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อลดข้อพิพาทระหว่างกัน ก็จะมาตกลงแนวทางกัน ในเรื่องของเศรษฐกิจมีข้อหารือทวิภาคี ที่ผ่านมาเห็นชอบในการเพิ่มเป้าหมายการค้าระหว่างกัน 20% ระหว่างปี 55-58 เราก็จะดูว่าจะร่วมมือกันอย่างไร ครั้งนี้จะพูดถึงเรื่องข้าวที่เป็นรูปธรรม มีประเทศที่เป็นผู้ผลิตข้าวลงนามจัดตั้งสมาพันธ์โรงสีข้าวและผู้ค้าข้าวอาเซียน
ในเรื่องของการเชื่อมต่อ ส่วนของเวียดนามก็จะมีการเชื่อมฝั่งตะวันออกไปตะวันตก หรือที่เรียกกัน R9 เชื่อมต่อในการอำนวยความสะดวกระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ด้านสังคมวัฒนธรรมดูเรื่องการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมเวียดนามในประเทศไทย และตั้งศูนย์ไทยศึกษาในเวียดนามเพิ่มเติม การแลกเปลี่ยน การให้ทุนเวียดนามมาเรียนในไทย และแนวทางการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ นอกเหนือจากการประชุมร่วมก็จะหารือทวิภาคีของนายกฯไทยกับนายกฯเวียดนาม เป็นการหารือต่อเนื่องจากที่ท่านมาไทย ก็จะคุยต่อเรื่องการค้าเรื่องข้าว ยางพารา ก็จะมีความร่วมมือด้านยางพารา ความร่วมมือด้านอาหารที่จะร่วมกันเป็นแหล่งอาหารโลก รวมทั้งปัญหายาเสพติดและการค้ามนุษย์
นายกฯกล่าวว่า ครั้งนี้มีเอกสาระหว่างความมั่นคงระหว่างไทยและเวียดนาม และเอ็มโอยูจัดตั้งสภาธุรกิจไทยเวียดนาม ร่วมกับ 3 สถาบันของภาคเอกชนด้วย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น