วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

"นายกฯยิ่งลักษณ์" เล็งใช้กฎหมายอย่างสันติ รับมือสถานการณ์ใต้

8 กันายน 2555 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและสถานีโทรทัศน์ช่องเอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โดยระบุว่า การลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อแก้ปัญหาประชาชน ได้ยึดหลักกฎหมายอย่างเป็นธรรม เพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยได้ทำตามแนวทางที่น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือการเข้าใจ เข้าถึง และการพัฒนา 
รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ออกอากาศทาง NBT
โดยมีเนื้อความดังนี้ 

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี (พิธีกร) : สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน วันนี้ผมธีรัตถ์ รัตนเสวี รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในภาคใต้รัฐบาลไม่เคยละเลยและล่าสุดนั้นเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาท่านนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ภารกิจของท่านที่ลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง เรามาสอบถามกับท่านนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ท่านนายกฯ สวัสดีครับ

นายกรัฐมนตรี : สวัสดีค่ะ

พิธีกร เรียนถามถึงมุมมองของท่านนายกรัฐมนตรีถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคใต้ รัฐบาลจะมีแนวทางในการรับมือและแก้ไขอย่างไรบ้าง

นายกรัฐมนตรี : ก่อนจะเล่าถึงรัฐบาลมีนโยบายอย่างไร ต้องเรียนว่าปัญหาภาคใต้จริง ๆ ต้องพูดว่าเป็นปัญหาระยะยาวต้องมีการแก้ไขและต้องใช้เวลาในการแก้ไข เป็นปัญหาที่เรียกว่าละเอียดอ่อนและซับซ้อน ดังนั้นการทำงานจริง ๆ คือว่าต้องทำความเข้าใจไปแก้ปัญหาไป ซึ่งเราต้องบอกว่าไม่มีสูตรใดสำเร็จแต่ต้องลงไปเข้าใจในพื้นที่ตามแนวที่เราน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือการเข้าใจเข้าถึงการพัฒนาและอาศัยการลงไปทำงานและค่อย ๆ แก้ไขไป ดังนั้นการลงไปภาคใต้ครั้งนี้ที่จังหวัดนราธิวาสได้มีโอกาสได้ลงไปพร้อมกับท่านรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คน และอีก 5 กระทรวง ที่ลงไปในครั้งนี้และผู้บัญชาการกองทัพบกในฐานะที่เป็นรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ลงไปพื้นที่ อย่างแรกที่เราลงไปคืออยากลงไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโอกาสได้พบกับพระสงฆ์ ผู้นำศาสนา และไทยพุทธ ไทยมุสลิม ที่ได้มีโอกาสได้ไปให้กำลังใจพี่น้องประชาชนและดิฉันเองถือโอกาสลงไปฟังปัญหาในพื้นที่จริง ๆ ซึ่งปัญหาก็จะฟังจากภาคประชาชน ผู้นำองค์กร และผู้นำศาสนาด้วย ว่าปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ขวัญกำลังใจประชาชนเป็นอย่างไร สุดท้ายเรากลับมาในการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ทางด้านของพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบไปด้วยทั้งในส่วนของแม่ทัพภาค 4 ในฐานะที่ดูแลกำกับในพื้นที่ส่วนหน้าของ กอ.รมน. และทางเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

พิธีกร : ได้มีการฟังสรุปรายงานต่าง ๆ จากคนในพื้นที่อย่างไรบ้างครับ

นายกรัฐมนตรี : ฟังการรายงานการสรุป ซึ่งจริง ๆ แล้ววัตถุประสงค์ที่เรามาคือ หนึ่งเราฟังรายงานการสรุปแล้ว เราก็ต้องการที่จะรับทราบปัญหาแล้วทำอย่างไรในพื้นที่ส่วนกลางหลายคนอาจจะบอกว่าเราอยู่พื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนกลาง จะลงไปสั่งงานอย่างไรในเมื่อเราไม่เข้าใจปัญหาของพื้นที่แต่จริง ๆ แล้ววิธีการทำงานของเรานั้น มองว่าพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นศูนย์ส่วนหน้าเป็นผู้ที่เข้าถึงและเข้าใจปัญหามากกว่า ก็จะให้ส่วนนี้เป็นคนที่จะหารือเป็นคนหารือกันซึ่งหลัก ๆ จะเป็น ศอ.บต. และ กอ.รมน. ที่จะหารือกันรวมกับผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วมีอะไรที่ส่วนกลางที่เราจะร่วมสนับสนุน ซึ่งวันนี้สิ่งที่ได้คุยกันคือว่าจากภาพรวมโดยยุทธศาสตร์รวมที่ได้มีการเสนอไว้ต่อรัฐสภาก็ยังเป็นยุทธศาสตร์เดิม แต่ในทางปฏิบัติก็ยังเป็นแนวทางเดิม แต่ว่าเพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเพื่อให้เราบูรณาการของกระทรวงอื่น ๆ ซึ่งหลาย ๆ กลุ่มอาจจะมองไม่เห็นในเรื่องของการขับเคลื่อนที่ชัดเจน ซึ่งเราเองอยากจะเห็นความขับเคลื่อนที่ไม่ใช่เรียกว่าชัดเจน เรียกว่าความขับเคลื่อนที่รวมพลังกันในการที่จะช่วยเสริมกำลังในส่วนพื้นที่

พิธีกร : ผมว่าไม่ใช่แค่ทหาร ตำรวจในพื้นที่ หรือว่าชุมชนอย่างเดียวจะเห็นว่าท่านนายกฯ พยายามที่จะเน้นหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เรียกว่าหน่วยงานอื่น ๆ ที่ก่อนหน้านี้อาจจะไม่ได้ถูกดึงโยงลงมาในการแก้ไขปัญหาภาคใต้

นายกรัฐมนตรี : ใช่ค่ะ ได้พาผู้อำนวยการสำนักงบประมาณและเลขาธิการสภาพัฒน์ไปด้วยในพื้นที่ เราจะทำทั้งงานเรียกว่าดูแลความปลอดภัย ความมั่นคง และรวมถึงงานพัฒนาที่ควบคู่กันไป อันนี้จริง ๆ เราก็ทำอยู่แล้วและเจ้าหน้าที่ทุกท่านก็ทำอย่างเต็มที่ เราลงไปดูว่าในส่วนของรายละเอียดนั้นต้องการการสนับสนุนอย่างไรบ้าง อย่างเช่นสิ่งที่เราคุยกันว่าในส่วนเร่งด่วนพื้นที่บางพื้นที่ที่ต้องการอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเรื่องของการอำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือประชาชนด้านชีวิต ทรัพย์สินต่าง ๆ มีความพร้อมแค่ไหน ต้องการกำลังสิ่งไหนที่เราจะช่วยในลักษณะของการบูรณาการ อันนี้ก็เป็นอย่างแรกซึ่งในการพูดคุยกันได้มีการหารือกันโดยข้อสรุปพูดถึงแนวทางในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน อย่างเรื่องแรกเรื่องของการป้องกันดูแลความปลอดภัย สิ่งที่เราพูดถึงคือว่าจะดูในแผนของการป้องกันหรือว่าเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการที่จะตรวจสอบหรือจุดตรวจต่าง ๆ ในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยนั้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต้องการอะไรบ้างก็ขอให้มีการสรุปในเรื่องของงบประมาณ

พิธีกร : อย่างเช่นว่าในบางพื้นที่ขาดกล้อง CCTV เหล่านี้ก็จะมีการคุยกันและหาทางที่จะซื้อให้เขาให้ได้

นายกรัฐมนตรี : ค่ะ ซึ่งต้องลงไปในรายพื้นที่ไม่ใช่บอกว่าจะติดตั้งกล้อง CCTV แต่จริง ๆ แล้วต้องบูรณาการว่ากล้องนี้จะติดจุดไหน แล้วเวลาดูแลใครจะเข้ามาดูแลรับผิดชอบในส่วนนี้ และจะเชื่อมต่ออย่างเช่นสถานที่ของเอกชนหรือบ้านเรือนที่มีความเป็นห่วงอย่างไร นี่ก็คือเรื่องแรกที่คุยกันและได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปสำรวจและเรื่องของการเตรียมพร้อมอย่างเช่น เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นรถพยาบาลทางกระทรวงสาธารณสุขเตรียมแพทย์พยาบาลพร้อมหรือไม่ในการดูแลชีวิตผู้คน หรือเรื่องของเครื่องดับเพลิงหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะช่วยในการกู้ภัยทั้งชีวิตคนและทรัพย์สิน รวมถึงกิจการร้านค้าด้วย อันนี้ก็คือให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ มีความเตรียมพร้อม

พิธีกร : คือเป็นการเน้นการดูแลความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

นายกรัฐมนตรี : ใช่ค่ะ และรวมถึงมาตรการในเชิงรุกอย่างเช่น สิ่งที่เราต้องค่อยติดตามข้อมูลข่าวสารแต่ติดตามอย่างไรให้รวดเร็ว และได้มีการสะท้อนในเรื่องของการทำงานแต่ละพื้นที่เพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือดูแลประชาชนได้เร็ว ดังนั้นการช่วยเหลือจะมีการดูทั้งในระดับที่เรียกว่าให้มวลชนมาช่วยกันดูแลพื้นที่ของตัวเองในชุมชนอย่างไร การที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกเสริมเพิ่มเติมขึ้นมา นอกเหนือจากส่วนของทาง กอ.รมน. ดูแล้วเพื่อที่จะให้ประชาชนมีความรู้สึกสบายใจ โดยเฉพาะพื้นที่ที่สามารถที่จะสัญจรไปมาได้จะมีการดูแลโดยประชาชนด้วยกัน

ประชาชนสามจังหวัดชายแดนใต้ ให้การต้อนรับนายกฯยิ่งลักษณ์ ด้วยความอบอุ่น
พิธีกร : ส่วนแนวทางในการสร้างความเข้าใจของคนในชุมชนดำเนินการอย่างไร

นายกรัฐมนตรี : อันนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าการสร้างความเข้าใจเมื่อก่อนเกิดเหตุหรือหลังเกิดเหตุก็ตาม การที่ให้ประชาชนมีความเข้าใจถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยจากภาครัฐ และการสร้างความเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ววันนี้ปัญหาทางภาคใต้ก็เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของการสร้างความเข้าใจสอดคล้องกัน และการที่ประสานให้ประชาชนมีส่วนร่วมและสร้างความเชื่อมั่น คงจะไม่ใช่แค่การความเชื่อมั่นในส่วนของพื้นที่เท่านั้นการเชื่อมั่นของนักลงทุน นักท่องเที่ยว แขกต่างประเทศ หรือว่าสิ่งต่าง ๆ นี้ก็ต้องมีกระบวนการกลไกในการสร้างความเข้าใจให้เกิดความเชื่อมั่นด้วย

พิธีกร : ส่วนผู้ที่สูญเสียกระบวนการในการเยียวยามีแนวทางช่วยไหมครับ

นายกรัฐมนตรี : กระบวนการการเยียวยาทางหน่วยมหาดไทยและ ศอ.บต. เป็นผู้ที่รับผิดชอบดูแล ซึ่งเราเองก็มีในส่วนของงบประมาณในการที่จะเข้าไปดูแลเยียวยาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินต่าง ๆ อันนี้ก็ให้กระบวนการเยียวยานั้นให้แน่ใจว่ากลไกต่าง ๆ นั้นทำงานได้ดี ดิฉันเองได้มีโอกาสพบผู้ที่ได้รับการเยียวยาไปแล้วหลายท่านก็มีความรู้สึกดีขึ้นอันนี้ก็สิ่งหนึ่ง โดยเฉพาะวันนี้เราจะพบว่ากระบวนการเยียวยาหลาย ๆ เรื่องก็ผูกพันกันต่อว่า ไม่ใช่แค่เยียวยาระยะสั้นแต่สิ่งที่ต้องดูแลอย่างเช่น สุภาพสตรีที่สามีอาจจะเสียชีวิตเป็นหญิงหม้ายจะดูแลอย่างไรในการดำรงชีวิตอยู่ การให้อาชีพ และวิธีการสร้างอาชีพต้องไปดูอีกว่าบางครั้งบางพื้นที่ไม่สะดวกในการเดินทางจะทำอย่างไรให้อยู่ที่บ้านและมีรายได้ สร้างรายได้ขึ้นมา และเพิ่มพูนความรู้ รวมถึงคุณภาพชีวิตเรื่องของการดูแลสาธารณูปโภคต่าง ๆ และอาจจะนำในเรื่องของการศึกษา กีฬา และในเรื่องของดนตรีสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อให้คุณชีวิตผู้ที่อยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นมีความรู้สึกที่ดีขึ้น

พิธีกร : คือไม่ใช่ว่าอยู่ในความหวาดกลัวแต่ว่าอยากจะให้คนที่อยู่ในพื้นที่ที่อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และรัฐบาลเอาหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องลงไปใช้ในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้นมา

นายกรัฐมนตรี : เป็นการเรียนยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญทั้งในส่วนของการดูแลด้านความมั่นคง และการพัฒนา สิ่งที่เราดูนอกเหนือจากนั้นในการที่ได้เชิญเจ้าหน้าสภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่น ๆ นั้น เพื่อที่จะมาคุยกันว่าในส่วนของการวางแผนระยะยาวเรื่องของการที่จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นมีการพัฒนาที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องของถนน โลจิสติกส์ต่าง ๆ ซึ่งก็พบว่าในหลาย ๆ ที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและยังเป็นสถานที่ที่สามารถมีผู้คนมาท่องเที่ยว แต่กลับไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ให้คนรับรู้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทุกพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีปัญหาแต่อาจจะมีบางพื้นที่เท่านั้นที่เราต้องเข้าไป ในบางพื้นที่ที่ปลอดภัยอยากให้ได้มีโอกาสใช้ชีวิตเป็นปกติบ้าง

พิธีกร : คือมีการสร้างได้ให้กับชุมชนมีการเชิญนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่าง ๆ ไปเที่ยวดูว่าพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้น่ากลัวหรือมีความรุนแรงแบบที่หลายคนคิด

นายกรัฐมนตรี : ใช่ค่ะ ต้องดูในเรื่องของสถานที่บางสถานที่เราคิดว่าดูแล้วนั้นสามารถไปได้ต้องประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงในการดูแลความปลอดภัยต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะทำให้คนที่เดินทางมารู้สึกสบายใจขึ้น

พิธีกร : กว่าครึ่งเรื่องของปากท้องของประชาชนในพื้นที่ บางชุมชนจะรู้สึกว่ามีความกังวลเกี่ยวกับการเดินทางไปประกอบอาชีพมีการแก้ปัญหาอย่างไรบ้างไหมครับ

นายกรัฐมนตรี : บางส่วนคงต้องไปสำรวจเส้นทางว่าเส้นทางไหนเป็นเส้นทางที่อาจจะเปลี่ยวหรืออันตราย คงต้องดูเรื่องไฟ สาธารณูปโภคในการตัดเส้นถนนต่าง ๆ ให้เดินทางได้ปลอดภัยขึ้นหรือบางที่ที่ในชุมชนมีโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ คงต้องไปช่วยดูในเรื่องของการปลอดภัยเพื่อให้คนมาทำงานและสามารถกลับบ้านได้ หรือว่ามีที่พักอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยคงต้องไปดูในรายละเอียด ซึ่งเบื้องต้นดิฉันได้มอบหมายให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด แม่ทัพภาค 4 และ กอ.รมน. ลงไปทำงานในรายละเอียดพื้นที่และเราคงจะเข้าไปทำความเข้าใจและแก้ปัญหาในแต่ละพื้นที่ว่าจะต้องใช้ส่วนไหนบ้าง กระทรวงไหนบ้างที่เข้าไปเสริมในการทำงาน

พิธีกร : คือ มีการดูแลเชิงมนุษยธรรม ให้ความเป็นอยู่เขาที่ดีขึ้น ทรัพย์สินปลอดภัยมากขึ้น แต่เรื่องของการบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ ในพื้นที่มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง

นายกรัฐมนตรี : การบังคับใช้กฎหมายมีหลายส่วนคือเรื่องของคดีความต้องมีหน่วยงานภายใต้กระทรวงยุติธรรมในการติดตามเรื่องคดีความ แต่ที่สำคัญต้องให้ความยุติธรรมและความเป็นธรรม และการบังคับใช้กฎหมายนี้ก็ต้องเป็นไปอย่างละมุนละม่อมด้วยวิธีทางกฎหมายและสันติวิธี อันนี้เป็นสิ่งที่ดิฉันเน้นย้ำว่าการดูแลพี่น้องประชาชนต้องดูแลให้เกิดความเป็นธรรมและมีความสงบ เชื่อว่าถ้าเราช่วยกันในการที่จะร่วมกันให้กำลังใจ สร้างพลังต่าง ๆ ให้กับคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งวันนี้กำลังใจพี่น้องประชาชนค่อนข้างดี ดิฉันเชื่อว่าพลังตรงนี้จะนำสันติสุขกลับคืนมา

พิธีกร : ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบเอาไว้และพยายามปรับใช้ให้เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ เพราะอย่างที่ท่านบอกในตอนต้นว่าปัญหาภาคใต้คงไม่มีสูตรสำเร็จที่เบ็ดเสร็จในการแก้ปัญหาแต่ว่าเป็นปัญหาระยะยาวและละเอียดอ่อน แต่ถ้าทุกภาคส่วนร่วมมือกันช่วยเหลือกันน่าจะทำให้พี่น้องอยู่ได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี : ใช่ค่ะ

อ้างอิงเพิ่มเติม นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ 
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.449601628417631.108576.105044319540032&type=3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น