วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

นายกฯยิ่งลักษณ์ เผยผลประชุมUN-ดูผังเมืองนิวยอร์กปรับใช้ในไทย

รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ที่ออกอากาศวันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2555 เป็นการบันทึกเทปสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากนครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ในโอกาสเดินทางร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ โดยมีน.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สัมภาษณ์
         
น.ส.ศันสนีย์ ได้สอบถามนายกฯถึงการเดินทางมาในครั้งนี้ว่าเหนื่อยหรือไม่ เพราะมีภารกิจเต็มทั้ง 4 วัน  นายกฯตอบว่า เหนื่อย ภารกิจหลายอย่าง เต็มเหยียด4 วัน ไหนๆมาแล้วก็อาศัยช่วงว่างไปดูงานให้เป็นประโยชน์ จะได้มาใช้กับคนไทย

ในการเดินทางมาประชุมสมัชชาฯ ครั้งนี้ ได้มีโอกาสไปเยี่ยมสถานศึกษาเด็กเล็กอยู่ย่านฮาเล็ม ที่รัฐบาลร่วมกับภาคเอกชนและท้องถิ่นในการสอน ดูแลตั้งแต่ในครรภ์ 0-4 ปี ที่นี่ท้องถิ่นทำงานร่วมกับรัฐบาล ดูแลพัฒนาการของเด็ก สัดสวนครูเขาใช้ 1:5 นอกจากนี้มีการดูแลติดตามพัฒนาการของเด็ก เด็กที่จบแล้วก็ให้มาดูแลที่จะสอนน้องๆต่อไป เราก็จะดูมาใช้กับประเทศไทย ซึ่งดิฉันเป็นประธานคณะกรรมการการศึกษาเด็กปฐมวัย ดูตั้งแต่ช่วงชีวิตของเด็กก็จะนำแนวคิดนี้มาประยุกต์ ตั้งแต่เด็กแรกเกิดหรือเด็กเล็ก ควรได้รับวัคซีนอะไร ต้องมีการบันทึกไม่ให้ตกหล่นในเรื่องพัฒนาการเบื้องต้น เพราะเด็กก็จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต
          
นอกจากนี้มีแถม เพราะนครนิวยอร์คเป็นเมืองเศรษฐกิจมีโครงสร้างผังเมือง ในการดูแลของท้องถิ่นก็มีโอกาสคุยกับนายกเทศมนตรีของนิวยอร์ก ก็จะนำไปประยุกต์ใช้กับกทม. และที่อื่นๆ และดูในเรื่อง ไฮ ไลน์ พาร์ค คือเอาเส้นรถไฟเก่ามาปรับใช้ในสวนสาธารณะ เราก็จะไปดูแลประยุกต์ใช้ สุดท้ายก็ไปดูสถานีรถไฟว่าเขาเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้สถานีรถไฟอย่างไร เพื่อประยุกต์เอาสินค้ามาขายให้ได้ประโยชน์

นายกฯกล่าวต่อว่า ในส่วนเวทีสหประชาชาติ เราก็มีบทบาทในการพูดในเวทีสหประชาชาติ พูดในเรื่องความร่วมมือของไทยในการรว่มมือกับนานาประเทศแก้ปัญหาความมั่นคง ความสงบ และสวัสดิภาพของเด็กและสตรี นอกจากนี้ ในการประชุมมีการลงนามอนุสัญญาสิทธิเด็ก กรณีเด็กถูกละเมิดหรือรังแกก็มาร้องเรียนได้ เป็นวิวัฒนาการของหลายประเทศที่หันมาดูแลเด็กและสตรี เป็นระดับเวทีโลก ที่ทุกประเทศมาร่วมลงนาม มีผู้นำมา 190 ประเทศก็อาศัยเวทีนี้พูดคุยกัน ทักทาย สุดท้ายถ้าสิ่งไหนเป็นประโยชน์ก็จะนัดหารือทวิภาคีเพิ่มเติม ซึ่งการที่มีความสัมพันธ์ที่ดีก็จะเป็นประโยชน์มาก

เมื่อถามว่ามีการหารือทวิภาคีกับประเทศใดบ้าง นายกฯตอบว่า มีการรหารีอรมต.ตปท.ยูเออีก็มาขอหารือ และก็มีเมียนมาร์ด้วย ก็หารือกับประธานาธิบดีเมียนมาร์ และก็อาศัยโอกาสนี้ต่อยอดการหารือการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย ส่วนที่พบกับอียู ก็เจรจาเรื่องเจรจาเปิดการค้าเสรี เพราะวันนี้เรื่องการค้าการลงทุนหลายประเทศ ก็เริ่มมาดูว่าเศรษฐกิจผันผวน เขาก็มองว่ากลไกเอฟทีเอเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้ เราก็ต้องรีบดูว่าอันไหนเป็นประโยชน์เพื่อบอกให้เอกชนเตรียมตัว
          
เมื่อถามถึงความสนใจของต่างประเทศต่อประเทศไทย  นายกฯกล่าวว่า ในประเทศไทยเองเขาก็สนใจ เพราะถือว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทยและอาเซียนด้วย ที่เราจะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หลายประเทศก็สนใจลงทุน เพราะเรามีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุน ที่สำคัญด้านการท่องเที่ยว ทุกคนเห็นประเทศไทยก็ชื่นชม เมืองไทยอาหารอร่อย มีสถานที่ เราก็ดีใจมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น