วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

"วิทยา" แจงหลักประกันสุขภาพ ยัน3สิทธิใช้ได้เท่าเทียมกัน พร้อมผุดไอเดียกระตุ้นปชช.นำ'ยาเก่า'มาแลก'ไข่'


(23 มิถุนายน 2555) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี งดจัดรายการ"รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน"มอบหมาย นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงรายละเอียดหลักประกันสุขภาพ ดำเนินรายการโดย นายธีรัตถ์ รัตนเสวี
       
นายวิทยา กล่าวว่า นโยบายเรื่องการดูเลเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชนนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบมอบให้ดูแลข้อเท็จจริงว่า ทำอย่างไรให้ใช้สิทธิจาก 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนข้ารราชการพลเรือน กองทุนหลักประกันสุขภาพ ปละกองทุนประกันสังคม ให้เกิดความเท่าเทียมกัน ไม่เหลื่อมล้ำกัน โดยมี กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และกระทรวงสาธารณสุข มาบูรณาการเพื่อทำงานร่วมกัน โดยใช้ทั้ง 3 สิทธิได้อย่าเสมอภาค อย่างกรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ทันที เพียงแค่มีบัตรประชาชนก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาลแล้ว
       
"นายกรัฐมนตรี ยังมอบหมายในส่วนเรื่องโรคเอดส์ที่ต้องดูแลเรื่องการรรักษาให้มีความเสมอภาค โดยต้องทำให้ 3 กองทุนมีมาตราฐานเดียวกัน เมื่อประชาชนเข้ารับการรักษา และเมื่อดูแลการรักษาแล้ว จะต้องดูแลเรื่องการป้องการเพื่อไม่ให้เกิดผู้ป่วยโรคเอดส์รายใหม่ ซึ่งตรงนี้ทางกระทรวงก็จะนำมาสรุปเพื่อหาข้อมูลที่ชัดเจนในการดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน หาข้อที่ดีที่สุดเพื่อดูแลสุขภาพของคนไทย ส่วนการรักษาโรคไต ไตวาย ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนมาก และขั้นตอนการรักษาค่อนข้างยุ่งยากไม่ว่าจะเป็นการล้างไต การดูแลก็ดี การพบหมอ การล้างช่องทอง การล้างผ่านเส้นเลือด ตรงนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ขอให้ดูแลผู้ป่วยโรคนี้โดยใช้ทั้ง 3 สิทธิได้อย่างครอบคลุม" นายวิทยา กล่าว
       
นายวิทยา กล่าวต่อว่า "กรณียาที่ใช้ในการรักษาที่ประชาชนเข้ารักการรักษาและมีการเปลี่ยนสิทธิ หรือเปลี่ยนโรงพยาบาลรักษาและกลัวว่าจะไม่ได้ยาเดิมนั้น ทางกระทรวงเล็งเห็นถึงความสำคัญและได้มีการตั้งคณะกรรมการดูและเรื่องยาโดยรวมทั้ง 3 กองทุน หาข้อสรุปว่า ควรซื้อยาลักษณะแบบไหนอย่างไร เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานเดียวกัน"


"ในบัญชียาหลักจะมีหารพูดคุยกัน เพื่อแสวงหายาที่เหมาะสมและราคาที่เหมาะสม เพื่อเป็นปะโยชน์แก่พี่น้องประชาชน อีกทั้งจะมีการกระตุ้นให้ให้ประชาชนนำยาเก่า หมดอายุแล้วมาแลกกับไข่ เนื่องจากยาที่ได้ไปใช้ไม่หมด และมีจำนวนมาก แก้ปัญหาไม่นำยาเก่าที่หมดอายุมาใช้อีกและส่งผลให้สุขภาพเสื่อมลง ซึ่งช่วยลดงบประมาณ แต่ยืนยันไม่ลดคุณภาพของยาแน่นอน" นายวิทยา กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น