นายกรัฐมนตรี นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา |
นายกรัฐมนตรี นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ พล.อ.เต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีสหภาพพม่า |
น.ส.สาวศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุมนักธุรกิจสหรัฐฯ - อาเซียน ภายใต้หัวข้อ Commitment to Connectivity (C2C) จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจของสหรัฐฯที่เข้ามาลงทุนในภูมิภาคอาเซียน และนักธุรกิจของอาเซียน ได้มีการพบปะแลกเปลี่ยนในเวทีสัมมนาเพื่อแสวงหาแนวทางความร่วมมือและการค้าการลงทุนกับภาครัฐบาลของแต่ละประเทศในอาเซียน อันจะเป็นการส่งเสริมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยมีภาคเอกชนชั้นนำจากสหรัฐและจากประเทศอาเซียนผู้แทนจากภาครัฐบาลจากประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนเข้าร่วมด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การกล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำต่อนักธุรกิจสหรัฐฯ และผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาความเชื่อมโยงในอาเซียน (ASEAN Connectivity) เพื่อการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งนอกเหนือจากการเพิ่มพูนศักยภาพตลาดเดียวของอาเซียน (ASEAN Single Market) ยังรวมถึงการร่วมมือกับประเทศคู่เจรจา ทั้งเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และเอเชียแปซิฟิก ที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในปัจจุบัน พร้อมทั้งเชิญชวนภาคเอกชนสหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ประชาคมอาเซียนในด้านต่างๆ
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้เห็นถึงบทบาทของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน และการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาการเชื่อมโยงทั่วภูมิภาค เพื่อการคมนาคม ติดต่อ สื่อสาร และการท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง การจัดการความมั่นคงตามแนวชายแดน การพัฒนาแนวเชื่อมโยงการขนส่งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน (Land Bridge) จากท่าเรือน้ำลึกทวายในเมียนมาร์ สู่ท่าเรือแหลมฉบังของไทย รวมทั้ง ความสำคัญของภูมิภาคอาเซียนต่อโลก ที่มีความพร้อมในการเป็นฐานการลงทุนของเอกชนทั่วโลก จากปัจจัยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร ทั้งพลังงานและอาหาร แรงงานฝีมือ และเทคโนโลยีการสื่อสาร ซึ่งการได้รับความสนับสนุนจากประเทศคู่เจรจาอย่างสหรัฐฯ ก็จะยิ่งเพิ่มศักยภาพของอาเซียนในอนาคตต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น