วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
นายกฯย้ำความสัมพันธ์ไทย-พม่าร่วมมือพัฒนาด้านการค้าและเศรษฐกิจ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ถึงการเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ นายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า เมื่อ 22-24 ก.ค.ว่า มีการหารือทวิภาคีและเซ็นต์เอ็มโอยูความร่วมมือท่าเรือน้ำลึกทวาย ที่ถือว่าเป็นประโยชน์มาก เชื่อว่าท่าเรือดังกล่าวจะเชื่อมต่อประเทศต่างๆ และเชื่อมท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมโดยเฉพาะกลุ่มส่งออก และจะพัฒนาท่าเรือน้ำลึกต่อไปยังประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียน
"การพัฒนาท่าเรือน้ำลึก จะเกิดโรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม เกิดการค้าการลงทุนเป็นประโยชน์ทั้งสองประเทศที่จะทำให้เกิดการค้าการลงทุน ถือว่าเป็นการข่าวที่ดีของสองประเทศ และเมียนมาร์เองก็จะเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องมีการวางโครงสร้างพื้นฐาน และเตรียมเชื่อมการพัฒนาระหว่าง 2 ประเทศ ด้วยการช่วยเหลือด้านการพัฒนาแรงงาน ปฏิรูปเศรษฐกิจ และการแลกเปลี่ยนด้านพลังงาน และในปี 56 จะเป็นปีครบรวมความสัมพันธ์ไทย-พม่าครบรอบ 64 ปี จะมีการจัดกิจกรรมในเรื่องการเชื่อมความสัมพันธ์ของไทยกับพม่าด้วย
นอกจากนี้ ปี 57 เมียนมาร์รับหน้าที่เป็นประธานอาเซียน ไทยก็จะเข้าไปช่วยเตรียมความพร้อม รวมไปถึงการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจต่างๆ
นอกจากนี้ การเปิดด่านพรมแดนเป็นหนึ่งในหัวข้อของการหารือทวิภาคีนอกจากการเซ็นต์เอ็มโอยู ทางรัฐบาลไทยและพม่าเตรียมเปิดด่านตามแนวชายแดน ยกระดับด่านสำคัญ 3 ด่าน เพื่อพัฒนาด้านเศรฐกิจและการค้าบริเวณแนวชายแดนให้ดียิ่งขึ้น ที่กิ่วผาวอก จ.เชียงใหม่ บ้านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน และบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี ซึ่งจะทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีและหว่างประชาชนและการค้าขายและการพัฒนาเศรษฐกิจดีขึ้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น